ครอบครัวของผม
                ภายในห้องแถวสองชั้นแห่งนี้  ผมอาศัยอยู่กับครอบครัวเล็กๆครอบครัวหนึ่ง  ทุกคนในครอบครัวเป็นคนน่ารัก  และช่างแสนดีกับผม  โดยเฉพาะเธอคนนั้น  สาวน้อยผมยาว นัยน์กลมโต  เธอต้อนรับผมอย่างดีและอบอุ่น  ทั้งๆที่ผมเองก็ไม่ได้เป็นญาติหรือมีความเกี่ยวข้องใดๆกับเธอหรือครอบครัวนี้เลย  แต่ทุกคนก็ดูแลผมอย่างดีไม่ต่างจากญาติคนหนึ่ง
    ทุกเช้า  ทุกคนในครอบครัวก็จะมารับประทานอาหารกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา  หลังจากนั้นต่างคนต่างก็แยกย้ายกันออกจากบ้าน  คุณพ่อไปทำงาน  พี่กอล์ฟ  ก้อย  น้องกวางไปเรียนหนังสือ  ส่วนผมกับคุณแม่อยู่บ้าน  ก้อยหรือสาวน้อยนัยน์ตากลมโตคนนั้น  เธอมักจะมาพูดคุยกับผมทุกๆวันหลังจากเธอกลับจากมหาวิทยาลัย    ก้อยชอบเล่าเรื่องที่มหาวิทยาลัยให้ผมฟังเสมอ  เธอเล่าเรื่องเพื่อน เรื่องเรียน  เรื่องอาจารย์  แม้กระทั่งเรื่องแม่ค้าในโรงอาหาร  ผมยังได้ฟังจากเธอบ่อยๆ  เวลาเธอเล่า  ใบหน้าของเธอจะเต็มไปด้วยรอยยิ้มสดใส  ผมชอบรอยยิ้มของเธอ  ผมชอบมองเวลาเธอมีความสุข  บางครั้งเธอก็คุยเพลินจนดึก  โดนคุณแม่ดุ  บางครั้งเธอก็มานั่งเขียนหนังสือข้างๆผม  เวลาเขียนหนังสือ  เธอจะมีสมาธิมาก  ไม่คุยแม้แต่คำเดียว  และเธอก็นั่งเขียนอยู่อย่างนั้นเป็นเวลานาน  นานจนผมเผลอหลับไปเลยก็มี
    หลายอาทิตย์ต่อมา  ก้อยพาเพื่อนคนหนึ่งมาที่บ้าน  เป็นชายหนุ่ม หน้าตาดี  อายุรุ่นราวคราวเดียวกับเธอ  ผู้ชายคนนั้นมาทานข้าวกับที่บ้าน  และอยู่คุยกับก้อยนานหลายชั่วโมง  ก้อยแนะนำผมให้เขารู้จักด้วย  แต่ผู้ชายคนนั้นไม่เห็นคุยกับผมสักคำ  หยิ่งจริงๆเลย      พอดึก  เขาก็ขอตัวกลับ  ก้อยเดินไปส่งเขาที่หน้าบ้าน  สองคนนี้  ท่าทางจะสนิทกันมาก  จนผมชักอิจฉาซะแล้ว  หลังจากวันนั้น  ก้อยก็กลับบ้านช้าทุกวัน  ผมห่วงเธอมาก  จนกินอะไรไม่ลง  ทุกคนในบ้าน  ก็คงเป็นเหมือนผม  เพราะทุกคนต่างมีสีหน้าไม่สบายใจ  บ้านหลังนี้จึงขาดความครื้นเครงเหมือนแต่ก่อน  ผมเหงามาก  เพราะไม่ค่อยมีใครคุยด้วย  และคิดถึงก้อยจับใจ   
เย็นวันหนึ่ง  ขณะที่ผมเล่นกับน้องกวาง  น้องสาวของก้อยอยู่  ผมก็เห็นก้อยกลับมาบ้านเร็วกว่าปกติ  หลังจากเธอกลับดึกอยู่หลายวัน  แต่เมื่อเธอกลับมาถึง  ก็รีบวิ่งขึ้นไปข้างบนทันที  โดยไม่พูดอะไรกับใครสักคำ  ผมมองเธอด้วยความแปลกใจ  และวันนั้น  เธอก็ขลุกอยู่แต่ในห้อง ไม่ยอมลงมากินข้าวเลย  บรรยากาศของบ้านในวันนั้น  จึงยิ่งตึงเครียดมากขึ้นอีก 
หลังจากเกิดเหตุการณ์วันนั้นแล้ว  ก้อยก็ไม่เคยกลับบ้านช้าอีกเลย  แต่ก้อยคนเดิมที่ร่าเริงหายไปแล้ว  เหลือแต่สาวน้อยคนหนึ่งที่มีแต่ความหมองเศร้า  เอาแต่เงียบและชอบเก็บตัวคนเดียวในห้อง  ทั้งคุณพ่อคุณแม่  พยายามจะเข้าไปพูดคุยปลอบใจเธอ  แต่เธอก็ไม่ยอมเปิดประตูห้องออกมาพบใครเลย  มีแต่ผมคนเดียวเท่านั้น  ที่เธอยอมพูด ยอมคุย  ยอมระบายความในใจทั้งหมดให้ฟัง  เธอเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นด้วยน้ำตานองหน้า  ผมจึงรู้สาเหตุที่ทำให้เธอต้องมาเป็นแบบนี้  นั่นเป็นเพราะความรัก  ผมไม่รู้หรอกว่ามันคืออะไร  มันคือสิ่งที่ผมกำลังรู้สึกกับเธอในตอนนี้หรือเปล่า  ผมรู้เพียงแต่ว่า  มันมีอานุภาพร้ายแรงมากเหลือเกิน  มันทำให้ก้อยของผม  ต้องทุกข์เศร้าเสียใจ
ผู้ชายคนที่มาที่บ้านวันนั้นเป็นตัวต้นเหตุของเรื่องนี้  เขาเป็นแฟนกับก้อย  และที่ก้อยกลับบ้านดึกทุกวัน  เพราะหายไปกับเขานี่แหละ  เขาพาก้อยไปกินข้าว  ดูหนัง  ไปเที่ยว ทุกๆวัน  แต่เวลาผ่านไปไม่ถึงสองสัปดาห์  เขาก็ทิ้งก้อยไป  เพราะเจอคนใหม่ที่ดีกว่า  สวยกว่า  ก้อยจึงต้องมานั่งกินน้ำตาแทนข้าวอยู่อย่างนี้นี่เอง  แม้ว่าผมจะรู้เรื่องต่างๆที่เกิดขึ้นกับก้อยทั้งหมดแล้ว  แต่ผมก็ไม่สามารถช่วยเหลืออะไรก้อยได้เลย  อย่างมาก  ผมก็แค่เป็นกำลังใจให้เธอลืมความทุกข์  และกลับมาเป็นก้อยที่ร่าเริงสดใสเหมือนเดิม
เวลาผ่านไป2-3วัน  ก้อยค่อยๆคลายความทุกข์ลงได้บ้าง  เธอเริ่มพูดคุยกับคนในครอบครัว  และไม่เก็บตัวอยู่ในห้องคนเดียว  คุณพ่อคุณแม่  อยากให้ก้อยสบายใจขึ้น  ในวันหยุดยาว  จึงตัดสินใจพาทุกคนในครอบครัวไปเที่ยวทะเลกัน  คืนก่อนเดินทาง  ทุกคนจึงเร่งรีบจัดเตรียมเสื้อผ้าข้าวของเครื่องใช้ของตัวเอง  บ้านหลังนี้กลับมามีชีวิตชีวาขึ้นอีกครั้ง  ผมเองก็หวังว่า  ก้อยจะเอาความทุกข์ของเธอ  ทิ้งทะเลไปเสียให้หมด  แล้วคืนนั้น  ทุกคนก็นอนหลับอย่างเป็นสุข
ผมงัวเงียตื่นขึ้นมาในเช้าวันใหม่  อากาศแจ่มใส  แต่บ้านกลับดูเงียบเหงา  ผมอดสงสัยไม่ได้  วันนี้  ทุกคนจะไปเที่ยวทะเลกัน  แต่ป่านนี้แล้ว  ทำไมยังไม่มีใครตื่นเลยสักคน  ผมรออยู่พักใหญ่  ตะวันสาดแสงแผดเผาจนผมเริ่มร้อน  นี่คงใกล้เที่ยงแล้ว  ผมชักเริ่มหิว  เพราะไม่ได้กินอะไรเลยตั้งแต่เช้า  และผมก็เริ่มสังหรณ์ด้วยว่า  ผมคงถูกทิ้งให้อยู่บ้านเสียแล้ว
ผมอยากให้ทุกคนกลับมาเร็วๆจัง  แต่คงต้องรออีก7วัน  ซึ่งผมคงรอไม่ไหว  กว่าจะถึงวันที่ทุกคนกลับมา  ผมคงไม่อยู่บนโลกใบนี้อีกแล้ว  ผมรู้สึกเสียดายที่ไม่มีโอกาสได้เห็นหน้าใครๆอีก  ไม่มีโอกาสได้ฟังเสียงหัวเราะ ได้เห็นรอยยิ้มของทุกคน  โดยเฉพาะก้อย  ผมอยากเห็นเธอกลับมายิ้มอย่างสดใสร่าเริงได้อีกครั้ง  แต่โอกาสนั้นของผมได้หมดลงแล้ว  ผมจะไม่เขียนจดหมายลาทิ้งไว้  เพราะผมไม่ได้รู้สึกเสียใจหรือคิดฆ่าตัวตายเพราะน้อยใจที่ทุกคนทิ้งผมไว้ที่บ้าน
            \"แต่เป็นเพราะก้อยได้ลืมกระต่ายสัตว์เลี้ยงตัวโปรดของเธอไว้ที่บ้าน  และมันอดอาหารตาย......ก็เท่านั้นเอง
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น